สมุนไพรที่มีสรรพคุณรักษามะเร็งปากมดลูก
โรคมะเร็ง เป็นปัญหาที่ทั้งโลกกำลังแสวงหาทางเลือกในการดูแลรักษา เพราะโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ
และระยะเริ่มของโรคมะเร็งมักจะไม่แสดงอาการใด รวมถึงการรักษาทางการแพทย์ก็จะมีแต่ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
อีกทั้งผลข้างเคียงก็สูงมากด้วย ดังนั้นการรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพรจึงเป็นแนวทางเสริมอีกทางหนึ่ง
และระยะเริ่มของโรคมะเร็งมักจะไม่แสดงอาการใด รวมถึงการรักษาทางการแพทย์ก็จะมีแต่ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
อีกทั้งผลข้างเคียงก็สูงมากด้วย ดังนั้นการรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพรจึงเป็นแนวทางเสริมอีกทางหนึ่ง
มะเร็ง คือ อะไร
มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ ที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต
มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ รวดเร็ว และมากกว่าปกติ ดังนั้น จึงอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติและในที่สุดก็จะทำให้เกิดการตาย
ของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะการ เจริญเติบโตของหลอดเลือด ถ้าเซลล์มะเร็งพวกนี้เกิดอยู่ในอวัยวะใดก็จะ
เรียกชื่อ มะเร็ง ตามอวัยวะนั้นเช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ ที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต
มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ รวดเร็ว และมากกว่าปกติ ดังนั้น จึงอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติและในที่สุดก็จะทำให้เกิดการตาย
ของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะการ เจริญเติบโตของหลอดเลือด ถ้าเซลล์มะเร็งพวกนี้เกิดอยู่ในอวัยวะใดก็จะ
เรียกชื่อ มะเร็ง ตามอวัยวะนั้นเช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
เท่าที่มีรายงานไว้ในขณะนี้ มะเร็งที่พบในร่างกายมนุษย์มีมากกว่า 100 ชนิด มะเร็งแต่ละชนิดจะมีการดำเนินของโรคไม่เหมือนกัน เช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง จะมีการดำเนินชนิดของโรคที่รุนแรง ผู้ป่วยจะมีชีวิตการอยู่รอดสั้นกว่าผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
อาการและอาการแสดงของโรคมะเร็ง
1.ในช่วงแรกขณะที่ร่างกายมีเซลล์มะเร็งเป็นจำนวนน้อย จะไม่แสดงอาการใดเลย
2.มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญาณอันตราย 9 ประการ ซึ่งควรไปพบแพทย์ เพื่อการตรวจค้นหาโรคมะเร็ง หรือสาเหตุอื่นๆ
ที่ทำให้มีสัญญาณเหล่านี้ เพื่อการรักษาและแก้ไขทางการแพทย์ที่ถูกต้องก่อนที่จะกลายเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นมะเร็งระยะลุกลาม
3.มีอาการป่วยของโรคทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ร่างกายทรุดโทรม ไม่สดชื่น และไม่แจ่มใส
4.มีอาการที่บ่งบอกว่า มะเร็งอยู่ในระยะลุกลาม หรือเป็นมาก ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมะเร็งชนิดใดและมีการกระจายของโรคอยู่ที่
ส่วนใดของร่างกาย ที่สำคัญที่สุดของอาการในกลุ่มนี้ ได้แก่ อาการเจ็บปวดมาก
1.ในช่วงแรกขณะที่ร่างกายมีเซลล์มะเร็งเป็นจำนวนน้อย จะไม่แสดงอาการใดเลย
2.มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญาณอันตราย 9 ประการ ซึ่งควรไปพบแพทย์ เพื่อการตรวจค้นหาโรคมะเร็ง หรือสาเหตุอื่นๆ
ที่ทำให้มีสัญญาณเหล่านี้ เพื่อการรักษาและแก้ไขทางการแพทย์ที่ถูกต้องก่อนที่จะกลายเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นมะเร็งระยะลุกลาม
3.มีอาการป่วยของโรคทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ร่างกายทรุดโทรม ไม่สดชื่น และไม่แจ่มใส
4.มีอาการที่บ่งบอกว่า มะเร็งอยู่ในระยะลุกลาม หรือเป็นมาก ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมะเร็งชนิดใดและมีการกระจายของโรคอยู่ที่
ส่วนใดของร่างกาย ที่สำคัญที่สุดของอาการในกลุ่มนี้ ได้แก่ อาการเจ็บปวดมาก
สัญญาณอันตราย 9 ประการที่ทุกคนควรจะจำไว้เพื่อสุขภาพที่ดี ได้แก่1.มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายอุจจาระ และปัสสาวะ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ หรือปัสสาวะเป็นเลือด
2. กลืนอาหารลำบาก หรือมีอาการเสียด แน่นท้องเป็นเวลานาน
3. มีอาการเสียงแหบ และไอเรื้อรัง
4. มีเลือดหรือตกขาวที่ผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็น
5. แผลซึ่งรักษาแล้วไม่ยอมหาย
6. มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามร่างกาย
7. มีก้อนที่เต้านมหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
8. หูอื้อหรือมีเลือดกำเดาไหล
9.อยากนอนทั้งวัน นอนได้ตลอดเวลา ไม่มีแรง
2. กลืนอาหารลำบาก หรือมีอาการเสียด แน่นท้องเป็นเวลานาน
3. มีอาการเสียงแหบ และไอเรื้อรัง
4. มีเลือดหรือตกขาวที่ผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็น
5. แผลซึ่งรักษาแล้วไม่ยอมหาย
6. มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามร่างกาย
7. มีก้อนที่เต้านมหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
8. หูอื้อหรือมีเลือดกำเดาไหล
9.อยากนอนทั้งวัน นอนได้ตลอดเวลา ไม่มีแรง
การสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิดต่างๆ
อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย1. มะเร็งปากมดลูก
อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้งที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติ อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้
2. มะเร็งในมดลูก
อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อ หรือมีอาการบวมในช่องท้อง
3. มะเร็งรังไข่
อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์
มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง
4. มะเร็งในเม็ดเลือดขาว (Leukemia,Leukeamia:ลูคีเมีย)
อาการ เหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติ มักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่าย
โดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาการปวดตามข้อต่างๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืด และเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวม ที่ด้าน
ซ้ายของช่องท้อง
5. มะเร็งปอด
อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำ หนักลดอย่างรวดเร็ว เจ็บหน้าอกและหายใจลำบาก
หรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
6. มะเร็งตับ
อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด
สมุนไพรที่รักษามะเร็งตับ เช่น เห็ดหลินจือ
7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
8. มะเร็งสมอง
อาการ ปวดศีรษะนานๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น อาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียวๆ
แดงๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือการเป็นลมโดยกะทันหัน อวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่น
มีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราว ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
9. มะเร็งในช่องปาก
อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือที่ลิ้นเป็นเวลานาน มีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรัง
ที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำ หรือเป็นเวลานาน
10. มะเร็งในลำคอ
อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอ
ที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึก ได้
11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร
อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อาเจียนออกมาเป็นเลือด ท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อยบ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อน
เนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
12. มะเร็งทรวงอก
อาการ มีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนม บวม หรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้น มีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้
บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานาน ควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอก
โดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่า ซีสต์
ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจน
13. มะเร็งลำไส้
อาการ น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว มีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ
ข้อสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้ว คือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวาร
แต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่น คือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
อาการ มีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย
15. มะเร็งผิวหนัง
อาการ มีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานาน ตลอดจนไฝ หรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด
นอกจากนี้ อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่า เมลาโนมา (Melanoma) คือ เนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น
กระจุดด่าง หรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติ
อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย1. มะเร็งปากมดลูก
อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้งที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติ อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้
2. มะเร็งในมดลูก
อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อ หรือมีอาการบวมในช่องท้อง
3. มะเร็งรังไข่
อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์
มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง
4. มะเร็งในเม็ดเลือดขาว (Leukemia,Leukeamia:ลูคีเมีย)
อาการ เหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติ มักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่าย
โดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาการปวดตามข้อต่างๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืด และเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวม ที่ด้าน
ซ้ายของช่องท้อง
5. มะเร็งปอด
อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำ หนักลดอย่างรวดเร็ว เจ็บหน้าอกและหายใจลำบาก
หรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
6. มะเร็งตับ
อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด
สมุนไพรที่รักษามะเร็งตับ เช่น เห็ดหลินจือ
7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
8. มะเร็งสมอง
อาการ ปวดศีรษะนานๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น อาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียวๆ
แดงๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือการเป็นลมโดยกะทันหัน อวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่น
มีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราว ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
9. มะเร็งในช่องปาก
อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือที่ลิ้นเป็นเวลานาน มีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรัง
ที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำ หรือเป็นเวลานาน
10. มะเร็งในลำคอ
อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอ
ที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึก ได้
11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร
อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อาเจียนออกมาเป็นเลือด ท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อยบ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อน
เนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
12. มะเร็งทรวงอก
อาการ มีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนม บวม หรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้น มีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้
บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานาน ควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอก
โดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่า ซีสต์
ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจน
13. มะเร็งลำไส้
อาการ น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว มีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ
ข้อสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้ว คือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวาร
แต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่น คือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
อาการ มีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย
15. มะเร็งผิวหนัง
อาการ มีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานาน ตลอดจนไฝ หรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด
นอกจากนี้ อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่า เมลาโนมา (Melanoma) คือ เนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น
กระจุดด่าง หรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติ
มะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทย
เพศชาย มะเร็งตับ มะเร็งปอด
เพศหญิง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม
เพศชาย มะเร็งตับ มะเร็งปอด
เพศหญิง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม
การรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพร
ที่ผ่านมามีงานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพถึงการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า
พฤติกรรมเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็ง
ที่ผ่านมามีงานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพถึงการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า
พฤติกรรมเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็ง
โดยร่างกายของคนเรามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ถ้าร่างกายเรามีภูมิต้านทานที่ดีมีความสมบูรณ์ แข็งแรง ก็จะสามารถ
ต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทำลายด้วยวิธีต่างๆ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อมะเร็ง ได้แก่ การกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง
อาหารมีสารพิษ ไม่สะอาด มีสารก่อมะเร็ง ความเครียด การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารพิษหรือสารก่อมะเร็ง ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้
ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทั้งสิ้น
ต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทำลายด้วยวิธีต่างๆ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อมะเร็ง ได้แก่ การกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง
อาหารมีสารพิษ ไม่สะอาด มีสารก่อมะเร็ง ความเครียด การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารพิษหรือสารก่อมะเร็ง ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้
ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทั้งสิ้น
ดังนั้นการป้องกันการเกิดมะเร็งที่ดี คือ การมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารที่เน้นเป็นอาหาร
ธรรมชาติ เส้นใย (fiber) สูง เช่น ผักพื้นบ้านที่อุดมไปด้วย วิตามิน เอ อี ซี สูง เช่น ผักใบเขียว ผักตระกูลกะหล่ำ ตำลึง โหระพา ข่า กระเทียม
หัวหอม กระเทียม มะระ
ธรรมชาติ เส้นใย (fiber) สูง เช่น ผักพื้นบ้านที่อุดมไปด้วย วิตามิน เอ อี ซี สูง เช่น ผักใบเขียว ผักตระกูลกะหล่ำ ตำลึง โหระพา ข่า กระเทียม
หัวหอม กระเทียม มะระ
นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรที่เป็นอาหารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งและมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ได้แก่ ขมิ้นชัน กุยช่าย กะหล่ำปลี
กะหล่ำดอก ผักคะน้า บรอคโคลี่ มะแว้งเครือ มะแว้งต้น มังคุด หอมแดง กะเพรา โหระพา กระเทียม งา ชะเอม ดีปลี ขมิ้นอ้อย ตำลึง ขิง
ตะไคร้ น้ำเต้า มะเขือเทศ มะเขือพวง มะระขี้นก มะขามป้อม
กะหล่ำดอก ผักคะน้า บรอคโคลี่ มะแว้งเครือ มะแว้งต้น มังคุด หอมแดง กะเพรา โหระพา กระเทียม งา ชะเอม ดีปลี ขมิ้นอ้อย ตำลึง ขิง
ตะไคร้ น้ำเต้า มะเขือเทศ มะเขือพวง มะระขี้นก มะขามป้อม
การรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพรนั้น ควรรับประทานอาหารเป็นมังสวิรัติ(เลี่ยงโปรตีน)
และไม่ว่าการรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพรหรือด้วยวิธีอื่น เรื่องจิตใจก็เป็นส่วนสำคัญ ดังนั้นคนรอบข้างต้องให้กำลังใจคนไข้อย่างยิ่ง
ท่านที่ป่วยก็ควรทำสมาธิ(หายใจเข้า ภาวนา “พุท” หายใจออก ภาวนา “โธ”) เลี่ยงความเครียด และที่สำคัญ ถือศีล 5(เป็นอย่างน้อย)
และไม่ว่าการรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพรหรือด้วยวิธีอื่น เรื่องจิตใจก็เป็นส่วนสำคัญ ดังนั้นคนรอบข้างต้องให้กำลังใจคนไข้อย่างยิ่ง
ท่านที่ป่วยก็ควรทำสมาธิ(หายใจเข้า ภาวนา “พุท” หายใจออก ภาวนา “โธ”) เลี่ยงความเครียด และที่สำคัญ ถือศีล 5(เป็นอย่างน้อย)
จากข่าวที่มีผู้ป่วยซึ่งทนความปวดและผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งไม่ไหว จึงปลิดชีพตนเอง
ทำให้นึกถึงเพื่อนที่จบแพทย์แผนไทยมาด้วยกัน ซึ่งมียาสมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง จึงอยากให้ได้ติดต่อกับ
แพทย์แผนไทย ชิตชัย ตันเจริญ 081-4333400 อยู่ที่ ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
ทำให้นึกถึงเพื่อนที่จบแพทย์แผนไทยมาด้วยกัน ซึ่งมียาสมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง จึงอยากให้ได้ติดต่อกับ
แพทย์แผนไทย ชิตชัย ตันเจริญ 081-4333400 อยู่ที่ ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น